โรกางร์โต้ มันชินี่ บอสทีมชาติอิตาลี มีความรู้สึกว่า ออสเตรีย บางทีอาจเป็นบทดทดสอบที่หนักกว่าการพบทีมอย่าง เบลเลยี่ยม หรือ โปรตุเกส ในรอบควอร์เตอร์ไฟนอล หลังขุนพลอัซซูร์รี่ ผ่านรอบ 16 ทีมมาได้แบบหืดขึ้นคอ
อิตาลี ที่ผ่านรอบแรกมาด้วยผลงานสวยงาม ลงเตะเป็นคู่สองของ รอบ 16 ทีม บอลยูโร 2020 เมื่อคืนนี้วันเสาร์ก่อนหน้านี้ กว่าจะคว่ำทีมรองบ่อนอย่าง ออสเตรีย ได้ ก็แทบแย่ โดยชนะไปได้เพียงแค่เฉียด ในช่วงต่อเวลาพิเศษ เตะจบ 120 นาทีที่สนามเวมบลีย์ก่อนเข้ารอบไปด้วยสกอร์ 2-1
อิตาลี มาได้ 2 ประตูในตอนเอ็กซ์ตร้าไทม์ จาก 2 ตัวสำรอง เฟเดริโก คิเอซา น.95 และ มัตเตโอ เปสสิท้องนา น.105 ก่อนที่ ออสเตรีย จะมาเอากลับคืนหนึ่งลูกจาก ซาซา คาลัดจ์สิช น.114
แม้มองถึงรอบถัดไปที่ อิตาลี จะต้องพบทีมใดทีมหนึ่งระหว่าง เบลเยี่ยม หรือ โปรตุเกส ที่ มิวนิค แต่ว่า มันชินี่ มีความรู้สึกว่าทีมของตัวเอง ที่พึ่งยืดสถิติไม่มีแพ้ออกไปเป็น 31 นัดหมาย บางทีอาจพึ่งผ่านบททดสอบที่หนักที่สุดไปในรอบ 16 ทีมในที่สุด
“พวกเราทราบดีว่ามันบางทีอาจเป็นเปลือกกล้วยสำหรับทีมของพวกเราในแมทช์นี้ และพวกเรามีความรู้สึกว่านี่น่าจะเป็นเกมที่หนักกว่าในรอบควอร์เตอร์ไฟนอล พวกเขาไม่ได้ดีพอๆกับทีมที่พวกเราจะต้องพบในรอบถัดไป แต่ว่าพวกเขาทำให้พวกเราพบงานยาก และก่อเรื่องกับพวกเรามากมายทีเดียว”
“พวกเราทราบดีว่าถ้าพวกเรายิงได้ในครึ่งแรก เกมมันจะไม่ออกมาแบบงี้ พวกเราคุยกันแล้วว่ามันจะเป็นแมทช์ที่พวกเราจะต้องหืดจับแน่กว่าจะชนะ พวกเราจำต้องเพียรพยายามอย่างยิ่งด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่มี”
“ผู้เล่นของพวกเราอยากเอาชนะให้ได้ไม่ว่าจะต้องแลกเปลี่ยนด้วยใดๆ และจากตัวสำรองที่ส่งลงไป พวกเขาปฏิบัติหน้าที่ได้เลิศ และช่วยทำให้พวกเราสามารถเอาชนะเกมนี้จนได้”
อิตาลี บอกให้เห็นถึงระดับความฟิตที่ยอดเยี่ยมากเกมรอบแบ่งกลุ่มทั้ง 3 นัดหมาย แต่ว่าเกมนี้เสมือนจะเบาๆไปจนถึง มีการส่ง มานูเอล โลกาเตลลี่, เปสสิท้องนา และ คิเอซา ลงไปเปลี่ยนเกม
มันชินี่ กล่าวเพิ่มอีก “พกเขาเด็ดมากจำต้องยอมรับ และโน่นน่าจะเป็นข้อได้เปรียบอย่างยิ่งสำหรับเรา พวกเราแสดงให้เห็นว่าพวกเราไขแก้เหตุการณ์ได้ พวกเรามีผู้เล่นที่สามารถก้าวลงในสนาม และเปลี่ยนเกมได้ ด้วยเหตุว่าพวกเขาสดกว่า มันเป็นฟอร์มที่สุดยอดมากมายอีกนัดหมาย”
แต่ว่าผลจากการแข่งขันบางทีอาจแปรไป ไม่ใช่ อิตาลี ที่เข้ารอบ แม้ไม่เพราะลูกยิงของ มาร์โก อาร์เนาโตวิช แผงหน้าจากเวสต์แฮม ในนาทีที่ 65 อดได้ประตูด้วยเหตุว่าล้ำหน้าจากที่ดู VAR แล้ว ตอนนั้น ออสเตรีย เล่นดียิ่งกว่า และกำลังทำเป็นดียิ่งกว่าทีมของ มันชินี่
ส่วนทีมที่ได้เข้าไปยืนรอเป็นทีมแรกในรอบ 8 ทีมในที่สุดเป็นเดนมาร์ก หลังลงเตะเป็นคู่แรก เมื่อคืนนี้วันเสาร์ ไล่ถล่ม เวลส์ ไม่เข้ารอบไปแบบหมดสภาพถึง 4-0 ได้จาก แคสเปอร์ โดลเบิร์ก น.27 และ 48 โจอาคิม แมเลอ น.88 และ มาร์ติน ไบรธ์เวท น.90+4 เวลาที่ ทีมมังกรแดง จบเกมด้วยผู้เล่น 10 คน หลัง แฮร์รี่ วิลสัน โดนใบแดง น.90 รอบถัดไป เดนมาร์ก จะพบทีมชนะระหว่าง สาธารณรัฐเชก กับ เนเธอร์แลนด์
แอขลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ สมัยก่อนผู้เล่นทีมชาติเวลส์ เชื่อว่า เดนมาร์ก ได้แรงผลักดันพิเศษที่จะจำต้องเอาชนะคู่ปรปักษ์ให้ได้เพื่อสหายร่วมทีมเป็นคริสเตียน อีริคบวงสรวง ที่ศีรษะดวงใจหยุดเต้นฟุบคาสนามในนัดหมายเปิดสนาม
“ผมมีความรู้สึกว่าพวกเขาอยากทำสิ่งนี้เพื่อ คริสเตียน อีริคบวงสรวง บางครั้งการเล่นเป็นทีม ทุกอย่างจะต้องมาพร้อมในเกม”
