“บล.หยวนต้า” คาดเงินแพร่แสนล้านบาท เน้นกรุ๊ปซ่อมบำรุงบ้าน เลี่ยงเทคโนโลยีสารสนเทศ “บล.เอเซีย พลัส” มองดูกรุ๊ปเทคโนโลยีสารสนเทศ – ซ่อมบำรุงบ้านได้ประโยชน์สูงสุด เผยเลิก “เทสต์ แอนด์ โก” ไม่กระทบบรรยากาศลงทุน “บล.ฟินันเซีย” ชี้หนุนยอดจำหน่าย – ดันอัพไซด์หุ้นเปิดเกือบชูแผง
นายณัฐพล คำถลาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายพินิจพิจารณาหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (เมืองไทย) เปิดเผยว่า วันหลังคณะรัฐมนตรี (คณะรัฐมนตรี) มีมติเห็นดีเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย “ช้อปดีมีคืน” ซึ่งจะมีผลระหว่าง 1 ม.ค. – 15 กุมภาพันธ์2565 สร้างบรรยากาศเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทย โดยเฉพาะกรุ๊ปขายปลีกที่ได้ประโยชน์ทางตรง เช่น บมจ.เทคโนโลยีสารสนเทศ สิตี้ (IT) และ บมจ.ซินเน็ค (เมืองไทย) (SYNEX) ที่ปรับขึ้น 6.67% และ 5.47% ตามลำดับ
ทั้งนี้ สอดคล้องกับมุมมองของฝ่ายวิจัยที่คาดว่ากรุ๊ปผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ และกรุ๊ปซ่อมบำรุงบ้าน จะได้ประโยชน์สูงสุดจากการใช้จ่ายตามมาตรการ เพราะเหตุว่าราคายอดจำหน่ายต่อใบเสร็จออกจะสูง ส่วนกรุ๊ปที่คาดว่าจะได้ประโยชน์รองลงมาเป็น กรุ๊ปห้างสรรพสินค้า และกรุ๊ปห้องอาหาร ตามลำดับ พื้นฐานคาดว่าวงเงินแพร่จะอยู่ที่ 80,000 – 100,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม กลอุบายการลงทุนไม่เสนอแนะซื้อกรุ๊ปผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศเพิ่ม เพราะเหตุว่าราคาหุ้นปรับขึ้นรุนแรง โดยหุ้นบางตัวราคาปรับขึ้นใกล้เคียงจุดสุดยอดเดิมแล้ว ระหว่างที่กรุ๊ปซ่อมบำรุงบ้านและกรุ๊ปที่ได้ประโยชน์รองลงมาสามารถเข้าซื้อได้เมื่ออ่อนตัว แม้กระนั้นควรเป็นนักลงทุนที่รับการเสี่ยงได้สูงเพราะเหตุว่าราคาหุ้นปรับขึ้นมาแล้วระดับหนึ่ง ระหว่างที่ผลจากการบวกจากมาตรการคาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส 1 ปี 2565
นอกเหนือจากนั้น ยังมีการเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของวัววิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งอาจมีผลต่อบรรยากาศการใช้สอยในระยะข้างหน้าขณะในการดำเนินมาตรการที่สั้นกว่ารอบปี 2563 รวมทั้งแรงบันดาลใจของสามัญชนที่มีการเสี่ยงลดน้อยลง เพราะเหตุว่าเดิมคาดว่ามาตรการจะมีผลด้านในสิ้นปี 2564 แม้กระนั้นการที่รัฐบาลขยับไปเป็นต้นปี 2565 นำมาซึ่งการทำให้สามัญชนจำเป็นต้องรอถึงสิ้นปีหน้าก็เลยจะได้ใช้สิทธิผ่อนผันภาษี
เมื่อซักถามถึงการที่ศูนย์บริหารเหตุการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อเชื้อไวรัสวัวโรท้องนา 2019 (ศบค.) สั่งหยุดรับนักท่องเที่ยวด้วยโปรแกรม Test and Go นายณัฐพล พูดว่า คาดผลพวงต่อตลาดหลักทรัพย์จำกัด เพราะเหตุว่าแม้ว่าจะมีโปรแกรมดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น แม้กระนั้นคาดว่านักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาในประเทศราว 2-3 แสนรายเพียงแค่นั้นในปี 2564 และ 6 ล้านรายในปี 2565 เพราะเหตุการณ์วัววิด-19 ในต่างแดนยังระบาดรุนแรง
นายอาจหาญ พันทาธนาธุระ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส พูดว่า มาตรการช้อปดีมีคืน คาดว่าจะส่งผลบวกทางตรงต่อกรุ๊ปผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ และกรุ๊ปซ่อมบำรุงบ้าน เพราะเหตุว่าราคายอดจำหน่ายต่อใบเสร็จที่สูง ส่วนกรุ๊ปที่ได้ประโยชน์ทางอ้อมเป็นกรุ๊ปห้างสรรพสินค้า อานิสงส์ผู้รับบริการที่มากขึ้นในช่วงการใช้สอย โดยคาดว่าวงเงินแพร่จะอยู่ที่ 7.3-1.1 แสนล้านบาท ใกล้เคียงกับรอบปี 2563 ระหว่างที่การยกเลิก Test and Go คาดว่าจะไม่กระทบต่อตลาดหลักทรัพย์ เพราะเหตุว่ามีผลถึง 4 ม.ค.2565 เพียงแค่นั้น โดยอาจจะจุดมุ่งหมายนักท่องเที่ยวปี 2564 ที่ 2 แสนราย และปี 2565 ที่ 6 ล้านราย
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายพินิจพิจารณาหลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส พูดว่า ข้างหลังรัฐบาลไฟเขียวมาตรการช้อปดีมีคืน คาดว่าจะส่งผลบวกต่อยอดขายสินค้าหุ้นขายปลีกเหมือนกันกับรอบปีที่ผ่านๆมา โดยราคาหุ้นในกรุ๊ปยังสามารถลงทุนได้เกือบทุกตัว ยกเว้นกรุ๊ปผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศที่จำเป็นต้องเลือกลงทุนรายตัว วันหลังราคาหุ้นได้โอกาสปรับขึ้น (อัพไซด์) ออกจะจำกัดแล้ว พื้นฐานประเมินวงเงินแพร่ราว 3 หมื่นล้านบาท หรือ 0.1-0.2% ของจีดีพี
