วันที่ 25 เม.ย. ไดอารี่ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งศูนย์กระจายคนไข้โควิด-19 ในจังหวัดกรุงเทพว่า ได้ร่วมมือกับกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่สนับสนุนใช้อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก เป็นโรงพยาบาลชั่วครั้งคราว เพื่อคัดเลือกกรองคนไข้โควิด-19 เข้ารับรักษา
พื้นฐานจัดเตียงไว้ 500 เตียง และมีเตียงสำรองอีก 5,000 เตียง ซึ่งจะรองรับคนไข้ที่ยังตกค้างอยู่ได้ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ต้องการให้ไปโทษจังหวัดกรุงเทพ หรือระบบการจัดการจัดการล้มเหลว ด้วยเหตุว่าตอนก่อนหน้านี้มีผู้ติดเชื้อมากขึ้นเยอะๆ การกระจายและการจัดการก็จะต้องเรียงลำดับ
กรณีปัญหา รพ.เอกชน ปฏิเสธที่จะตรวจโควิด-19 ให้กับพลเมือง ไดอารี่ บอกว่า ทุกคนที่เป็นคนประเทศไทยต้องได้รับการตรวจและการดูแลและรักษาไม่มีการแบ่งแยก และในฐานะเป็นประธาน สปสช. จะเซ็นหนังสืออนุญาตให้ทุกโรงพยาบาลตรวจพลเมืองคนประเทศไทย จะกล่าวถึงว่าบัตรประชาชนหมดอายุไม่ได้ และงบประมาณเบิกได้ทุกคน
กรณีที่กลุ่ม “แพทย์ไม่ทน” ตั้งแคมเปญผ่านเว็บไซต์ ล่ารายชื่อให้ลาออกนั้น
ไดอารี่ บอกว่า วันนี้แพทย์ทุกคนในกระทรวงสาธารณสุขที่ทำงานร่วมกันยังทนได้อยู่ มองไม่เห็นมีผู้ใดออกมาพูดว่าไม่ทน ก่อนหน้านี้เจอลักษณะนี้หลายที ไม่เคยท้อแท้ใจและจะเดินหน้าถัดไป
“ผมดำเนินงานอยู่ช่างเถิด ผมก็ทน ผมรู้สึกว่าผมยังดำเนินงานกับแพทย์ได้ แพทย์ที่แหน่งใดไม่ทน แต่หมอกระทรวงสาธารณสุขยังทนดำเนินงานอยู่แล้วก็ยังให้ความร่วมมือกับผมดีอยู่ ผมดำเนินงาน ผมไม่มีปัญหา ผมบอกตัวผมเองว่าผมกำลังดำเนินงาน ผู้ใดดูผม ผมก็ฟัง ผู้ใดว่าผม ผมก็ฟัง หลายๆคนว่ามาแล้วฟังเข้าที ก็ไปประพฤติตาม แต่ผมก็จะต้องดูตัวผมเอง ผมว่าผมก็ยังดำเนินงานได้อยู่ ผมก็ทำต่อไป ตอนเข้า ผมก็ขอเขามาที่นี่ ถ้าจะไปผมก็ขอไปด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นห่วงหรอกครับ ถ้ามันไม่ไหวผมไม่อยู่หรอก” ไดอารี่ กล่าว
ดังนี้ถึงเวลา 19.30 น. ของวันที่ 25 เม.ย. มีผู้ร่วมเซ็นผ่าน เรียกร้องให้ไดอารี่ ลาออกเเล้ว กว่า 103,030 คน