• พฤหัส. มี.ค. 23rd, 2023

ดูอนิเมะ เว็บอนิเมะออนไลน์ anime subthai

รีวิวเว็บดูการ์ตูน ดูอนิเมะซับไทย ดูการ์ตูนออนไลน์ ดูอนิเมะพากย์ไทย ดูanime การ์ตูน อนิเมะญี่ปุ่น การ์ตูนซับไทย การ์ตูนพากย์ไทย gg-anime อัพเดตตลอด 24 ช.ม.

35 หนังดีที่คู่ควรแก่การรับชม

ByAntonio Burton

ธ.ค. 12, 2020

หลายสิ่งหลายอย่างรอบตัวเราเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เราได้เห็นเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จากที่เราต้องเฝ้ารอชมภาพยนตร์สักเรื่องตามตารางฉายผ่านโทรทัศน์สู่ระบบสตรีมมิ่งที่ให้เราเลือกดูภาพยนตร์ได้ตามต้องการ การจากไปของม้วนวิดีโอ การก้าวข้ามขีดจำกัดของการชมภาพยนตร์ผ่านแผ่นวีซีดีและดีวีดีด้วยระบบสตรีมมิ่ง ถึงแม้หลายสิ่งจะเปลี่ยนแต่เราเชื่อมาโดยตลอดว่าไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนแต่หนังดีจะยังคงคุณค่าของมันไม่ว่าจะชมเมื่อไรก็ตาม ด้วยความเชื่อเช่นนี้ HOLLYWOOD HDTV เพราะเราเชื่อว่าโลกใบนี้ยังมีหนังดีจำนวนมากรอให้คุณค้นพบและหยิบมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนรอบตัว

1.Iron Man โดย We Love Movie Club

Iron Man

ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่านี่เป็นหนังเปิดตัวซูเปอร์ฮีโร่ที่ดีเยี่ยมที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่เคยมีการสร้างมา อีกทั้งควบตำแหน่งหลักไมล์แรกที่สำคัญของอาณาจักรหนังซูเปอร์ฮีโร่ค่าย Marvel Studios บนจอภาพยนตร์อันยิ่งใหญ่ในขณะนี้ ผู้กำกับ Jon Favreau นำเสนอเรื่องราวของมหาเศรษฐีพันล้านที่มิได้มีพลังดีเลิศ แม้กระนั้นกลายมาเป็นฮีโร่ภายใต้ชุดเกราะเหล็กรายนี้ โดยตั้งใจในรายละเอียดต่างๆผสมกับสเปเชีบลเอฟเฟคขั้นเทวดาที่สร้างฉากแอคชั่นได้อย่างถึงใจกับอารมณ์ขันกวนๆที่ผสมกันลงตัว โดยอีกองค์ประกอบที่ช่วยให้หนังบรรลุผลสำเร็จก็คงไม่พ้นการแสดงของ Robert Downey Jr. ที่สวมบท Tony Stark ได้ยียวนกวนใจประเภทได้โล่ จนถึงกลายเป็นหน้าที่ที่จะจำติดตาคนชอบดูหนังสมัยใหม่ไปอีกนาน ทั้งนี่ก็บางครั้งก็อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นหนังที่เริ่มฉากแถมท้าย End Credits จนถึงกลายมาเป็น ‘จารีต’ ของหนังค่าย Marvel Studios ยุคนี้ไปเรียบร้อยแล้วอีกด้วย

2.The Curious Case of Benjamin Button โดย วิภาควิจารณ์ภาพยนตร์

The Curious Case of Benjamin Button

หากแม้เหล่าแฟนหนังเดนตายของเดวิด ฟินเชอร์ จะบ่นอุบว่าหนังหัวข้อนี้เสมือนไม่ใช่หนังของฟินเชอร์เองก็ตาม เนื่องจากว่าขาดเอกลักษณ์ในความนัวร์ ที่เสาะหาเข้าไปสู่จิตใจห้วงลึกของนักแสดง เสมือนหนังหลายเรื่องของเขาที่ผ่านมา แม้กระนั้นหากเฉือนสายตาข้ามเอกลักษณ์ข้อนี้ไป หนังเรื่อง Benjamin Button ยังถูกจัดเป็นหน้าเป็นตาของฟินเชอร์ ที่ทำให้ออสการ์จะต้องหันมามองดู โดยตัวหนังเข้าชิงออสการ์ไปอย่างล้นหลามถึง 13 สาขา ด้วยเรื่องราวเช่นเทพนิยายของเบนจามิน บัตตั้น ที่เกิดมาด้วยรูปลักษณ์เหี่ยวย่นคล้ายคนวัยชรา ก่อนจะค่อยๆเด็กลง แม้กระนั้นเหนือสิ่งอื่นใดหนังมีโมเมนต์ความรักที่สำคัญมากๆระหว่าง เบนจามิน แล้วก็ ไดซี่ ซึ่งจากจากกันตลอดทั้งเรื่อง อีกทั้งรูปลักษณ์ภายนอกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จากการเติบโตที่สวนทางกัน ก่อนจะมีตอนหนึ่งของชีวิตที่ริ้วรอยที่วัยของคนทั้งสองเดินทางมาบรรสิ้นสุดกันพอดิบพอดี แล้วก็นั่นเป็นตอนๆในตอนที่น่าจดจำ จนถึงกลายเป็นหนังชื่นชอบได้อย่างง่ายดายเย็นเท่าไรนัก

3.Home ความรัก ความสำราญ ความทรงจำ โดย STW Movie Style : Thailand

Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ

อย่างชื่อของหนังนั่นแหละ ในทั้งสามตอนหนังเองมีตัวแทนของความรัก ความสำราญ แล้วก็ความทรงจำอยู่ในทุกๆตอน โดยไกล่เกลี่ยรูปทรงด้วยมุมมองของตอนวัยที่แตกต่างกันออกไป ไล่เรียงไปตั้งแต่ตอนวัยรุ่น วัยทำงาน จนถึงไปถึงวัยบั้นปลายของชีวิตที่จะต้องดำรงชีวิตตามลำพัง พอๆกับว่าหนังเองกำลังเล่าราวก่อนที่พวกเราจะสานสโมสรกับมนุษย์ผู้อื่น ในตอนที่พวกเราเริ่มจะสานสโมสร จนถึงวันหนึ่งที่พวกเราสานเกี่ยวข้องกันมานานมาก แล้วก็ถึงเวลาที่พวกเราจะเรียนรู้ที่จะแยกทางกันไป ซึ่งจะต้องยอมรับว่าผู้กำกับอย่าง ‘มะคนเดียว’ เองวางโครงเรื่องทั้งสามส่วนเอาไว้ได้อย่างดีมาก ซึ่งเพียงพอเล่าออกมาแล้วพวกเราพบว่าหนังเองมันก็มีความพอประมาณสำหรับเพื่อการเล่าค่อนข้างจะมาก มันมีความอิ่มพอดีของอารมณ์ แล้วก็เรื่องราว ก่อนที่หนังเรื่องถัดไปมันจะล้นจนถึงเกินงาม นี่ก็เลยเป็นหนังที่เอ๋ยถึงความข้องเกี่ยวของผู้คนในแม้กระนั้นล่ะตอนวัยได้อย่างยอดเยี่ยม มันเป็นการเรียนรู้ แล้วก็รู้เรื่องชีวิตอย่างแท้จริง

4.Crimson Tide โดย Movie Navigator

Crimson Tide

ผลงานเรื่องเด่นของผู้กำกับ Tony Scott ด้ามจับเอา Denzel Washington มาเจอกับ Gene Hackman ในเรือดำน้ำที่ปฏิบัติภารกิจในช่วงหลังสหภาพโซเวียตล่มสลาย แม้กระนั้นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกลับเป็นความขัดแย้งภายในของฝ่ายเดียวกันเอง หนังเลียนแบบให้เห็นถึงอิทธิพลของความไม่รู้ที่ก่อให้เกิดความหวาดกลัว แล้วจากนั้นมันจะแยกคนเป็น 2 ฝ่าย ด้วยการควบคุมที่เอาจริงเอาจังแล้วก็การเชือดเฉือนบทอย่างเด็ดขาดของ 2 นักแสดงนำ ทำให้หนังเป็นความระทึกโดยไม่ต้องประเคนฉาก Action ใหญ่มหึมาแต่อย่างใด บทหนังเล็กน้อยถูกปรับแต่งโดย Quentin Tarantino (แม้กระนั้นมิได้รับเครดิต) คนใดที่เป็นแฟนตัวยงก็สามารถทดลองความเป็นแฟนพันธ์แท้ได้ด้วยการกล่าวหาฉากไหนเป็นฉากที่ถูกปรับแต่ง (ถ้าไม่ลุ้นไปกับหนังจนถึงลืมไปซะก่อน) Crimson Tide

5.Ratatouille โดย โรงภาพยนตร์ที่ 3 ที่นั่ง E12

Ratatouille

คุณจะรู้สึกอย่างไรหากว่าวันหนึ่งได้ทราบว่าของกินจานเด็ดจากร้านค้าโปรดนั้นถูกรังสรรค์ขึ้นมาโดยสัตว์ตัวเล็กๆที่ว่ากันว่าแสนจะเลอะเทอะอย่าง “หนู”

แน่นอนว่าถ้าคุณไม่เคยดู Ratatouille มาก่อนเชื่อเถอะว่าแทบร้อยทั้งร้อยย่อมจะต้องพากันไปฟ้องสคบ.รัวๆแล้วสั่งให้ทางการมาปิดร้านค้าพร้อมแช่งชักหักกระดูกเจ้าของร้านไปเจ็ดแปดสารเลวแน่ๆถึงแม้ในความเป็นจริงแล้วของกินที่ ”หนู” พวกนี้ทำขึ่นมามันจะอร่อยล้ำแถมที่จริงพวกมันก็บางครั้งก็อาจจะมิได้เลอะเทอะอย่างที่เราคิดกันด้วย

แล้วก็สิ่งพวกนั้นมันไม่ได้ต่างอะไรกับอคติในใจพวกเราเลยขอรับ เมื่อพวกเราตั้งท่าจะชิงชังคนใดหรืออะไรไปแล้ว มันเป็นไปได้ยากมากที่จะยอมรับเขาหรือยอมรับผลงานของเขา ไม่ว่ามันจะดีเลิศเพียงใดก็ตาม ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าใครนั้นก็ต่างมีสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองแล้วก็มีสิ่งที่ตนเองทำเป็นดีอยู่แม้ว่าจะเป็นคนที่ตัวเล็กหรือถูกมองว่าไม่น่าสรรเสริญขนาดไหนก็ตามแล้วก็บางเวลาสิ่งที่พวกเขาขาดอยู่ก็แค่เพียงแต่ ”ช่องทาง” แล้วก็สายตาที่ไม่มี “อคติ” ก็เพียงเท่านั้น

นอกจากความดีในสารที่หนังสามารถสื่อได้อย่างสะดุดตาทะลุความเป็นอนิเมชั่นเด็กน้อยแล้วก็ความงดงามด้านภาพที่ชวนให้พุ่งไปซื้อตั๋วบินไปฝรั่งเศสมันแทบในทันทีทันใดแล้ว Ratatouille เองก็ยังเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ช่วยตอกย้ำให้ผมตระหนักได้เสมอว่า Pixar ตอนพีคนี่มันเทวดาจริงๆให้ตายสิผับผ่า!

6.The Chaser โดย ชุมนุมคนวิภาควิจารณ์หนังไม่เป็น

The Chaser

เป็นหนังสอบสวนไล่ล่าที่มีความเป็น Memories of Murder ผสม I Saw the Devil ที่นำเสนอได้อย่างลุ้นระทึกแล้วก็อึ้งไปกับฉากต่างๆที่เกาหลีสามารถหักหน้าผู้ชมได้จนถึงสามารถอุทานเป็นคำพูดที่ไม่สุภาพชนิดอีเชี่ยอีซัสได้ในฉากๆนั้น ซึ่งนอกเหนือจากการนำเสนอเรื่องราวได้อย่างลุ้นระทึกจนถึงติดเก้าอี้แล้ว นี่บางครั้งก็อาจจะเป็นหนังเกาหลีที่มีการบอกแล้วก็เล่าถึงข้อความสำคัญทางด้านสังคมที่น่าสนใจอย่าง การทำงานของตำรวจเกาหลี (หรือทั่วทั้งโลก?) ที่มีการดำเนินงานได้อย่างโหลยโท่ย จนถึงโยงไปถึงความโง่เขลาเบาปัญญาของนักการเมืองเอง ทำให้หนังสอบสวนธรรมดามีการนำเสนอแล้วก็วิจารณ์สังคมได้อย่างไม่ธรรมดา จนถึงผู้ชมเองสามารถนำไปคิดต่อกันเองว่า “มันเป็นธรรมแล้วหรอ”

7.Tokyo Sonata โดย ชมรมนิยมหนังอินดี้

Tokyo Sonata

กำเนิดเป็นคนญี่ปุ่นนี่ยากแล้ว กำเนิดเป็นคนชั้นกลางประเทศญี่ปุ่นยิ่งยากกว่า นี่เป็นทั้งหนังดราม่า หนังครอบครัว แล้วก็หนังสะท้อนปัญหาสังคมแล้วก็เชิงเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นได้อย่างน่าสนใจ ตั้งข้อซักถามต่อความนิยมหลายๆอย่าง ยกตัวอย่างเช่น ชายเป็นใหญ่, ดนตรี = ไม่มีกิน อื่นๆอีกมากมาย แล้วก็สถานการณ์ที่ตึงจนถึงเหลือเกิน หากแม้กำลังจนตรอก ครอบครัวในโลกระบบทุนนิยมมักมีสมาชิกเพียงแต่ไม่กี่คน แม้กระนั้นทำไมมันช่างอึดอัดเสียยิ่งกว่าครอบครัวขนาดใหญ่อดีตสมัย? หนังสอนให้พวกเรารู้จักการยินยอมรับความเป็นจริง แล้วก็เปิดใจ หนังมีฉากจบที่ทรงประสิทธิภาพสูงถึงสูงที่สุด ระดับป้อมดวงใจได้เลยว่า หากแม้พวกเราจะลืมหนังไปทั้งเรื่องแล้ว ความรู้สึกของฉากนี้ มันจะยังประทับใจอยู่ในห้วงความคิดไปอีกนานแสนนาน

8.The Matrix Reloaded โดย ชุมนุมคนวิภาควิจารณ์หนังไม่เป็น

The Matrix Reloaded

งานภาคต่อที่บางครั้งก็อาจจะไม่พีคหรือทรงประสิทธิภาพมากเท่าภาคแรก แม้กระนั้นก็ได้ผลงานภาคต่อที่ถือว่าทำออกมาได้อย่างสนุกสนาน กลมกล่อมละมุนละไม และไม่ออกสมุทรจนถึงเหลือเกินเสมือนภาคสาม ซึ่งมาลองคิดดูอีกทีแล้วนี่ก็คือภาคต่อที่สืบต่อเรื่องราวได้อย่างมีมิติ เบิกบาน ทั้งฉากแอคชั่นสุดมันส์ (ชอบสุดๆเป็นฉากไล่ล่าบนไฮย์เวย์ กับ ฉากนีโอสู้กับลูกน้องบนวัง) แล้วก็คงเป็นหนังที่พวกเราจะได้เห็นความทะยานอยากของผู้กำกับการสองญาติวาโซว์สกี้ที่ทำหนังได้กลิ่นอายคอมมิคแอคชั่นฝรั่งๆเท่ๆและจะคงได้ผลงานภาคต่อที่ดูแล้วเบิกบาน ได้กลิ่นอายการ์ตูนคอมมิคแล้วก็มันส์ไปฉากแอคชั่นเท่ๆหลายฉาก แล้วก็ที่แน่นอน นี่เป็นต้นแบบฉากไล่ล่าบนไฮย์เวย์ที่ทำให้มีฉากต่อสู้ยิงกันระหว่างขับขี่รถไล่ล่าใน The Raid 2 เนื่องจากว่าหัวข้อนี้แท้ๆ

9.The Trainspotting โดย What the Flick

The Trainspotting

การเสพหนังบางทีอาจพาพวกเราลอยคลุ้งได้ไม่มีความแตกต่างกับการเสพยา ความฟินจากอรรถรสที่หาไม่ได้จากกิจกรรมอื่นในชีวิต

‘Trainspotting’ จะพาคุณไปพบกับอารมณ์ที่หลากด้านหลายมุม ที่วนเวียนกับสารเสพติดที่ทั้งสุขจนถึงล้น แล้วก็น่าอนาถจนถึงจะต้องเมินหน้าหนี กับเรื่องราวของต้นฉบับกลุ่มเหี้ยนพันธ์แท้รุ่นบิดา หน้าที่กลุ่มชายวัยรุ่นคนติดยาของ ยวน แมคเกรเกอร์ก่อนจะมาจับกระบี่เลเซอร์ผันตัวเองเป็นอาจารย์เจได กับเรื่องราวที่ทั้งบ้า แสบซ่าของวัยคะนองในสมัย 90 มาร์ค เรนตัน(ญวน แมคเกรเกอร์) แล้วก็ชาวกลุ่มคนติดยาที่ติดเฮโรอีนติดเป็นนิสัยในเมืองเอดินเบิร์ก ที่ดำรงชีวิตปล่อยผ่านไปวันๆอย่างไร้สาระ ที่นาม้าวิตของพวกเขาไปสู่ความไม่ประสบผลสำเร็จ ที่นาเสนอหลากมุมมองโดยมีศูนย์กลางเป็นสารเสพติดที่ถ่ายทอดผ่านตัวสำคัญสวมบทบาทโดยญวน ชีวิตพวกเรานั้นน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก หากมองโลกให้ถี่ถ้วนพวกเราก็จะพบว่า ผู้คนรอบๆกายของพวกเราช่างหลากหลาย สหายของมาร์คเองก็มีหลายแบบนักแสดงแต่ละตัวช่างแตกต่างกันอย่างมีมิติแล้วก็ประณีต นอกนั้นทุกๆสิ่งบนโลกก็มีการเปลี่ยนไปตามระยะเวลาของมันเสมอ แม้แต่สารเสพติดเองก็บางทีอาจไม่ไช่ค้าง ตอบที่ไช่ตลอดกาลของพวกเขาเช่นกัน

การก้าวผ่านช่วงชีวิตที่ชั่วช้า แล้วก็การตัดสินใจก้าวเดินต่อไปด้านหน้าด้วยโทนเรื่องอันบ้าบอ แล้วก็เฮฮาจะพาให้พวกเราฟินได้ขนาดไหน จะต้องทดลองติดตามดูเรื่องราวของพวกเขาใน ‘Trainspotting’

10.Three Kings โดย Movie Navigator

Three Kings

ผลงานสมัยแรกๆของผู้กำกับ David O’ Russell ที่ว่าด้วยนายทหารอเมริกัน 4 คนภายในการศึกอ่าว (อิรัก-ประเทศคูเวต) ที่วางแผนลักขโมยทองคำจากอิรักซึ่งลักขโมยมาจากประเทศคูเวตอีกทอดหนึ่ง ฟังจากเรื่องย่อก็เพียงพอจะเดาได้ว่านี่เป็นหนังเสียดสีที่ใช้ความประพฤติปฏิบัติของกลุ่มตัวเอกสะท้อนความประพฤติปฏิบัติที่สหรัฐส่งทหารเข้าร่วมการศึกในคราวนี้ ด้วยเหตุดังกล่าวนี่ไม่ใช่หนังสงครามธรรมดา มันเต็มไปด้วยการจิกกัดทั้งอเมริกา สื่อ ทหาร รวมถึงทหารอิรักเอง หนังมาพร้อมสไตล์ที่หวือหวา แล้วก็แหวกแนวกว่าหนังสมครามหลายๆเรื่อง นำแสดงโดย George Clooney, Mark Wahlberg แล้วก็ Ice Cube แล้วก็ที่น่าสนใจก็คือนี่เป็นผลงานการแสดง (ในหน้าที่หลักของเรื่อง) ของ ผู้กำกับ Spike Jonze ก่อนจะสร้างชื่อในฐานะผู้กำกับหนังกับหนังเรื่องแรกอย่าง Being John Malkovich ในปีเดียวกัน

https://www.youtube.com/watch?v=v7ynYBijbbE

11.Batman Begins โดย Poprock on FILM

Batman Begins

คงไม่ต้องมีการโปรโมทกล่าวอ้างคุณประโยชน์อีกแล้วสำหรับชื่อของ คริสโตเฟอร์ โนแลน หลังจากนำเอา Batman ซีรีส์กลับมา Reboot ใหม่หมด แล้วก็แบ่งทำเป็นสามภาค “โนแลน” ก็กลายเป็นชื่อของผู้กำกับที่สร้างกางทแมนซีรี่ส์ได้ดีเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะคุณเป็นแอนตี้แฟนแค่นไหน คุณก็จะต้องยอมรับว่า นี่เป็นความจริง การวางเส้นเรื่องสามภาค Batman ของโนแลน ทำให้พวกเราทราบว่า เขาเป็นผู้กำกับที่ละเอียด ละเมียดละไม ในทุกส่วนของงานเลยทีเดียว ซึ่งหากแม้ภาค 2 อย่าง The Dark Knight จะเป็นภาคที่บรรลุผลสำเร็จสูงที่สุด แล้วก็ The Dark Knight Rises จะเป็นภาคที่คนพูดถึงแล้วก็เป็นกระแสสูงที่สุด แม้กระนั้นภาคที่น่าสนใจที่สุดในทรรศนะผู้เขียนกับเป็นภาคแรกหมายถึงBatman Begins เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดทั้งปวง ที่โนแลนเล่าได้ละเอียด มีปูมเหตุที่น่าสนใจแล้วก็ทำให้หนังภาคต่อๆมาไร้ที่ติเตียนเลยทีเดียว ความแค้นที่จะต้องสูญเสี ยครอบครัวตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ความสูญเสียยังเป็นเหตุให้บรูซ เวย์นตระหนักว่า เมืองที่เขาอยู่ Gotham City มันเละ แล้วก็ เลวทรามจริงๆนอกเหนือจากการชำระแค้น สิ่งที่บรูซ เวย์น ตระหนักได้เป็น มันไม่ใช่แค่ มิจฉาชีพกระจอกงอกง่อยเพียงคนเดียวที่ทำให้เขาจะต้องเสียครอบครัว แม้กระนั้นเป็นความเลวทรามที่ครอบงำเมืองนี้อยู่ต่างหาก นั่นทำให้เขาจะต้องลุกขึ้นยืนต่อสู้ เพื่อคุ้มครองปกป้องเมืองนี้ เมืองที่ครอบครัวของเขาอยากให้มันเป็นเมืองที่สงบสุข ไม่ใช่เมืองของภูติผี ความแปลกประหลาดที่โนแลนทำในภาค Batman Begins ทำให้พวกเรามีความคิดว่า นี่เป็น กางทแมน ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้จริงๆในโลกนี้ นักแสดงสมจริงสมจัง มีแรงผลักที่มีเหตุผล แล้วก็ ตรรกะความคิดที่ชวนเชื่อตาม ไม่ใช่แค่กางทแมนที่เป็นตัวละครแฟนตาซี ที่ประสบพบเห็นได้เพียงแค่ในหนังการ์ตูน นี่เป็นการทำให้นักแสดง “กางทแมน” ได้กลับมาคืนชีพอีกรอบ หลังจากเลือนหายไปตามระยะเวลาอยู่หลายสิบปี อีกหนึ่งหนังที่เป็นจุดเริ่มต้นของสามภาคหนังฮีโร่วิกาลที่สมัย หนึ่งในงานมาสเตอร์พีซของ คริสโตเฟอร์ โนแลน กางทแมนบีกิน

12.สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก โดย โรงภาพยนตร์ที่ 3 ที่นั่ง E12

สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารักก

เค้าว่ากันว่าบ้านพวกเรานั้นถนัดนักสำหรับเพื่อการทำหนังอยู่สามชนิดได้แก่ หนังผี ภาพยนตร์ตลก แล้วก็หนังรัก แม้กระนั้นเอาเข้าจริงๆครับหนังไทยทั้งสามชนิดนี้ในตอนขวบปีข้างหลังๆมาเนี่ยมันมีไม่กี่เรื่องเท่านั้นแหละที่ผมมองว่ามันดีเลิศจริงๆอย่างที่อ้างถึงกันมา แล้วก็หนึ่งในนั้นเองก็คือหนังรักๆฟอร์มเล็กๆที่เกิดดังแบบเปรี้ยงปร้างขึ้นมาแบบไม่คาดคิดอย่าง “สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก” นี่เองขอรับที่สามารถเข้าไปอยู่ในใจผมได้แบบไม่ยากเย็นเลย หากแม้แก่นของความจริงๆแล้วมันจะไม่ใช่อะไรใหม่สักนิดอย่างหัวข้อการแอบรัก/ความข้องเกี่ยวในกลุ่มเพื่อนชายสหายหญิง/ความข้องเกี่ยวในครอบครัว แม้กระนั้นสิ่งจำเป็นที่ทำให้มันดีเลิศเป็น ในตอนที่มันไม่ใหม่ แม้กระนั้นมันกลับมีการผสมเรื่องราวในหลายๆแง่มุมความข้องเกี่ยวได้ลงตัวแบบกำลังพอดี ไม่เยอะแยะ ไม่ล้น ไม่เฟ้อ แล้วก็มันดู ”จริง” เอามากๆ(เว้นเสียแต่ส่วนท้ายนะแหม่๕๕๕๕) จนถึงเสมือนเป็นผู้แทนภาพความทรงจำของตอนขณะหนึ่งในชีวิตว่าพวกเราก็เคยทำอะไรอย่างนี้นี่หว่าแล้วก็ทำให้พวกเราอินได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว (ตรงจุดนี้จะต้องดูใบเฟิร์นแล้วก็มาริโอ้ด้วยนะที่แสดงก้าวหน้าจริงๆซีนยอมรับสารภาพรักเอาไปสิบดาว) แล้วก็เนี่ยแหละเป็นสิ่งที่ผมอยาจะเห็นการแวดวงหนังไทยบ้านพวกเรา เป็นไม่ต้องไปเพียรพยายามจะทำอะไรเกินความสามารถหรอก เพียงแค่มุ่งปรับปรุงในสิ่งที่พวกเราเพียงพอทำเป็นอย่างการขัดเกลาบทให้มันดีๆแน่นๆเข้าไว้ก่อน เท่านี้ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว

13.Ghost โดย ชมรมนิยมหนังหวาน

Ghost

แน่นอนว่าความยิ่งใหญ่ประการสำคัญของ Ghost อยู่ตรงฉากจำอมตะนิรันดร์กาลที่ยังโดนอ้างอิงถึงในหลายแบบหากแม้เวลาจะผ่านมายาวนานเกิน 20 ปีอย่างฉาก ‘ปั้นหม้อรอคอยรัก’ เคล้าเพลง Unchained Melody แม้กระนั้นนั่นยังไม่ถึงครึ่งในความดีของหนังหัวข้อนี้ Ghost ยังมีบทที่ดีระดับชนะรางวัลออสการ์ มีการผสมระหว่างเรื่องราวความรักปลื้มปิติ ความขำขันเบิกบาน (ที่ตลกโปกฮาอย่างเอาจริงเอาจัง) กับเรื่องราวแฟนตาซีเหนือธรรมชาติแล้วก็การสืบสวนเหตุฆาตรกรรมได้อย่างลงตัว มีดารานำชาย-นางเอก (Patrick Swayze แล้วก็Demi Moore) ที่ลุคทรงเสน่ห์ลักขโมยดวงใจผู้คนทั้งบ้านทั่วทั้งเมือง แถมด้วยผู้แสดงสมทบที่ลักขโมยซีนระดับคว้ารางวัลออสการ์มาให้หนังหัวข้อนี้ได้ไปอีก 1 ตัว ถ้ายังไม่เคยดูหนังหัวข้อนี้ ก็ไม่สมควรเสียเวล่ำเวลาให้พลาดอีกต่อไป

14.The Cabin in the Woods โดย Movies Stalker

The Cabin in the Woods

Cabin in the wood เป็นหนังสยองขวัญที่ล้อเลียนแพทเทิร์นหรือขนบของหนังสยองขวัญที่ดูเหมือนจะทุกเรื่องมักใช้กัน ยกตัวอย่างเช่น ความต้องการอยากจะรู้อยากจะเห็น ลำดับการเสียชีวิตที่คนชนิดนี้มักตายก่อนหลัง ประเภทของผีภูติผี องค์กรลับ แล้วก็อื่นๆอีกมากมายแบบกล่าวได้ว่าเก็บทุกเม็ดจริงๆมันก็เลยเป็นหนังที่เจ๋งสุดๆเนื่องจากว่าหนังมีการรีเสิรทเก็บรวบรวมข้อมูลมาเป็นอย่างดีเลิศ อีกทั้งมีความน่าสะพรึงกลัวแล้วก็ความขำขันสลับๆกันไป ครึ่งชั่วโมงแรกราวกับหนังสยองขวัญทั่วๆไป ทั้งลักษณะท่าทางของนักแสดง การเดินทางไปในที่ๆลึกลับ สถานที่ ทุกๆอย่างก็ยังคงเสมือนหนังสยองขวัญที่เดาง่ายอย่างยิ่ง จนถึงหลังจากนั้น Cabin in the wood ทำให้พวกเราจดจำชื่อหนังหัวข้อนี้ ได้อย่างแม่นยำจำจนถึงฝังใจเนื่องจากว่าพวกเราจับทางอะไรมันมิได้อีกต่อไปแล้ว หนังออกนอกลู่นอกทางไปถึงระดับสูงสุดแบบกู่ไม่กลับจนถึงถ้าคนใดจับจุดมุ่งหวังหัวข้อการล้อเลียนขนบหนังมิได้ หนังหัวข้อนี้ก็จะกลายเป็นหนังที่เปรอะเปื้อนมากเพิ่มขึ้นมาทันครั้ง ถ้าจะถามคำถามว่าหนังสยองขวัญเรื่องที่ชอบสูงที่สุดเป็นเรื่องไหน ก็คงตอบว่าเกิดเรื่องนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

15.Enemy of the State โดย Movie Navigator

Enemy of the State

ผลงานชิ้นยอดของผู้กำกับ Tony Scott เล่าถึงกลุ่มเจ้าหน้าที่องค์กรของรัฐบาลที่ใช้อำนาจโดยไม่ถูกต้องสำหรับเพื่อการแอบฟัง แอบถ่าย ติดตามการเคลื่อนไหวของตัวเอกของเรื่อง เพื่อผลตอบแทนทับซ้อนอันยิ่งใหญ่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนสิทธิส่วนบุคคล หากแม้หนังจะเข้าฉายตั้งแต่ปี 1998 ช่วงที่ 56K Modem ยังเจริญก้าวหน้า แม้กระนั้นมันก็ทายภาพตอนนี้ของสมัย 3G ไร้สายในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากว่าการติดและก็ตามด้วย GPS, การมีกล้องวงจรปิดในทุกแห่งทุกหน แล้วก็การสื่อสารที่รวดเร็วฉับไว เป็นเรื่องปกติในยุคนี้ อีกทั้งเรื่องราวที่เลื่องลือไปทั่วทั้งโลกในปี 2013 ของ Edward Snowden ที่ออกมาเปิดเผยว่า NSA (National Security Agency, หน่วยงานเดียวกับในหนัง) มีการแอบฟังการสื่อสารทั้งภายในแล้วก็นอกสหรัฐ ไม่มีความแตกต่างกับรายละเอียดของเรื่อง อีกเรื่องที่สะดุดตาก็คือนี่เป็นการขับเคี่ยวระหว่าง 2 Generation เมื่อกลุ่มตัวเอกที่นำแสดงโดย Will Smith แล้วก็ Gene Hackman เป็นผู้แทนของคนรุ่นใหญ่วัยทำงาน กำลังถูกเด็กรุ่นใหม่อย่าง Barry Pepper, Jake Busey, Scott Caan แล้วก็ Jack Black (ยุคยังไม่ดัง) ตามล่าด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่สำคัญนี่เป็นหนัง Action/Thriller ที่มอบความสนุกสนานได้อย่างยอดเยี่ยม

16.The Last Samurai โดย เบิกโรงซินีม่า

The Last Samurai

หนังผสมระหว่างความเป็นงานดราม่า แอคชั่น แล้วก็เรื่องราวเชิงประวัติศาสตร์ได้อย่างลงตัว พร้อมฉายภาพให้เห็นวิถีแล้วก็จิตวิญญาณอันน่ากล่าวชมของ “ซามูไร” ในสมัยที่สิ่งที่จำเป็นของซามูไรลดน้อยถอยลง แล้วก็ในสมัยที่กระแสวัฒนธรรมของดินแดนอาทิตย์อุทัยกำลังอยู่ในตอนผลัดใบจากการไหลล้นเข้ามาของกระแสตะวันตก ส่วนอีกด้านหนึ่งของความเป็นหนังตลาด หนังมากับความสนุกสนานที่เดินเรื่องได้สนุกสนาน ฮึกเหิม โดยเฉพาะฉากรบอันยิ่งใหญ่แล้วก็สื่อให้เห็นความกล้าหาญยิ่งใหญ่ของซามูไร ซึ่ง “เคน วาตาที่นาเบ้” ในบทซามูไรคัทสึโมโต้ได้มอบการแสดงเอาไว้อย่างหนักแน่นไร้ที่ติเตียน

17.Minority Report โดย JackobotReview

Minority Report

Minority Report เป็นการผสมเรื่องราวในโลกอนาคตแล้วก็เรื่องราวอาชญากรรมได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ถึงแม้ตัวหนังจะดูเป็นหนัง Sci-Fi แม้กระนั้นอารมณ์สำหรับเพื่อการรับดู Minority Report มันเป็นอารมณ์บีบคั้น ตื่นเต้นแล้วก็นำพาให้รอยหยักในสมองได้ดำเนินงานเช่นเดียวกันกับดูหนังอาชญากรรมชั้นเลิศ โดยมีฉากหลังเป็นโลกในอนาคตที่ออกแบบมาได้อย่างไม่มีใครเหมือนที่ถูกประณีตบรรจงสร้างมาได้อย่างเฉพาะบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโลยีการสั่งงานคอมพิวเตอร์ด้วยมือเปล่าก็เป็นรากฐานสำคัญของเทคโนโลยีจริงในโลกใบนี้ด้วย (หนัง Sci-fi เกือบทุกเรื่องในยุคนี้เอาเคล็ดลับนี้มาใช้กันหมดด้วยไป) แม้กระนั้นเทคโนโลในหนังก็ไม่ล้ำเหลือเกิน แล้วก็ยังตีกรอบอยู่ในความสมจริงสมจังที่เป็นไปได้มันก็ยิ่งทำให้เป็นหนังแนวอาชญากรรมที่มีรสชาติแปลกใหม่ แล้วก็สองเท่าความสนุกสนานร่าเริงขึ้นอีกหลายเท่าตัว

18.แหยม ยโสธร โดย GossipGun

แหยม ยโสธร

“แหยมยโสธร” ถือว่าเป็นหนังไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลอย่างไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ ทั้งในด้านของพล็อตแล้วก็ภาพ หากทดลองกด Pause ไว้ที่วินาทีไหนก็ได้ของหนังหัวข้อนี้ ย่อมรู้ทันครั้งว่านี่เป็น แหยมยโสธร ความดีความชอบทั้งหมดทั้งปวงจะต้องชูให้ “กิน จ๊กม๊ก” ที่สะสมประสบการณ์การเล่าเรื่องมาจัดหนักกับภาพยนตร์หัวข้อนี้ จนถึงกลายเป็นหนังที่สนุกสนานแบบ 100% แล้วก็ถูกจริตกับผู้ชมกลุ่มใหญ่ในประเทศนี้ เป็นความสนุกสนานอย่างเต็มตัว โดยคุณกิน ดึงเอาความเป็นบ้านกำเนิดออกมาใส่ไว้ในหนังอย่างกลมกล่อมละมุนละไม นำเสนอวัฒนธรรมอย่างเข้าถึงง่าย ทำให้ผู้ชมรู้สึกสนิทสนมแล้วก็สนิทสนมกับนักแสดง แม้จะอยู่คนละพื้นที่ก็ตาม บวกกับ Production Design ที่ประหลาดตา มีเอกลักษณ์ มีทิศทางอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ แหยมยโสธร กลายเป็นหนังที่ลงตัวที่สุดของ กิน จ๊กม๊ก ในดูเหมือนจะทุกด้าน

19.Top Gun โดย What the Flick

Top Gun

สมัยนั้นจะหาชายใครที่เท่พอๆกับชายหนุ่มเจ้าท้องฟ้าไฟแรง Maveric สวมบทบาทโดยสุดหล่อ ‘ทอม คุณครูซ’ ในชุดนักบินรบ แล้วก็แว่น Rayban มาดเท่ห์ ในสถานที่เรียนฝึกนักบินชั้นหัวกะทิ Top Gun ผลงานการปะทุความมันส์โดย ดอน ซิมป์ ซัน แล้วก็ เจรี่ บรัคฮายเมอร์ กำกับภาพยนตร์โดยโทนี สก็อต ที่จะพาคุณไปพบกับหนังแจ้งกำเนิด ทอม คุณครูซ ดาวดวงใหม่แก่ฟ้าฮอลลีวูด เรื่องราวของมาเวริคที่เต็มไปด้วยอุปสรรค ปมชีวิตอันเจ็บร้าว แล้วก็ความรัก แล้วก็ไม่ตรงกัน เพื่อสานฝันสำหรับเพื่อการก้าวไปสู่นักบินรบระดับท็อป ความ เท่อันน่าคลั่งไคล้ที่เคยสร้างกระแสให้ชายหนุ่มอเมริกันน้อยใหญ่ แหนแห่กันไปสมัครเป็นนักบินด้วยมาดอันหล่อเหล่า รถมอเตอร์ไซค์คันโต แล้วก็แว่นดำเรย์แบนสุดเก๋า อีกทั้งเพลงประกอบอันเพราะของสมัย 80อันติดหู อย่าง Take My Breath Away ที่ยังพุ่งทะยานฮิตติดชาร์ทไปพร้อมๆกับหนังแล้วก็นักแสดงนำ บวกกับฉากแอคชันกลางท้องฟ้าที่จะมันส์ระห่า นับว่าเป็น ฉากที่เลิศ สาหรับคนที่พอใจในเครื่องบินรบ แล้วก็สนใจในเรื่องของนักบินควรหามารับดูขอรับ นี่เป็นแรงบันดาลใจที่ดีทีเดียว

20.A Walk to Remember โดย GossipGun

A Walk to Remember

 

A Walk To Remember เป็นหนังที่น้ำตาลูกเพศชาย น้อยครั้งนักที่จะมีหนังรักวัยรุ่นนำเสนอรักจริง ผ่านมุมของผู้ชาย เนื่องจากว่าหนังรักมักมองผ่านมุมของผู้หญิงเป็นหลัก ไม่ก็เป็นหนังวัยรุ่นที่ไม่มุ่งมั่นอะไรนัก ไม่เหมือนกับหัวข้อนี้ที่เล่าแบบ Real ไม่เกินจริง ไม่ฟูมฟายจนถึงเกินเหตุ ด้วยต้นฉบับที่ผลิตจากหนังสือของ Nicolas Sparks เจ้าพ่อนิยายรัก รับรองได้เลยว่า นี่เป็นหนังรักหวานซึ้ง แม้กระนั้นสิ่งที่ไม่เหมือนกับหนังสือของเค้าเล่มอื่นๆเป็นหัวข้อนี้ลดระดับความโตของนักแสดง ทำให้เข้าถึงง่ายยิ่งกว่าในทุกวัย โดยรวมนี่เป็นหนังรักชื่นชอบที่ดูเพลิน เพลงไพเราะ ทั้ง Only Hope แล้วก็ Someday We’ll Know แล้วคุณจะพบว่าข้างหลังดูหนังจบ คุณจะเสียน้ำตากับหนังหัวข้อนี้โดยไม่รู้สึกตัว

21.Speed โดย JEDIYUTH

Speed

ความดังของหนัง Speed หรือในชื่อไทย “สปีด เร็วกว่านรก” ในตอนที่ออกฉายในปี 1994 นับว่าเป็นการเกิด เนื่องจากว่าไม่เพียงแต่เป็นหนังทำเงินมหาศาล แล้วก็ทำให้เคียอานู รีฟส์ กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ กับแจ้งกำเนิดให้แซนดรา บูลล็อก กลายเป็นผู้แสดงดาวรุ่ง ความนิยมชมชอบของหนังยังเป็นเหตุให้กำเนิดกระแสการตัดผมทรง “สกินเฮด” กันไปทั่วทั้งโลก จนกว่าวันนี้ที่ผ่านมากว่า 20 ปี พวกเรายังเห็นร่องรอยของการเกิดนั้นอยู่

เรื่องราวของหนังถือว่าสดใหม่มากเมื่อ 20 กว่าปีกลาย กล่าวถึงคนร้ายโรคจิตที่ขู่วางระเบิดรถบัสที่มีผู้โดยสารเต็มคันรถยนต์ หากรถยนต์วิ่งช้ากว่าระบุ ทำให้รถยนต์คันนี้จะต้องซิ่งแดนนรก ในตอนที่ดารานำชายของพวกเราก็หาทางช่วยเหลือคนบนรถบัสให้ไม่มีอันตรายด้วยความเฉลียวฉลาดแล้วก็ความกล้าหาญ หนังยังเป็นเหตุให้พวกเราลุ้นระทึกได้ทุกครั้งที่เอากลับมาดูใหม่

22.Dawn of the Dead โดย Poprock on FILM

Dawn of the Dead

พวกเราสามารถบอกได้เต็มปากเต็มคำ อกผายไหล่ผึ่งว่า นี่เป็นงานชิ้นที่ดีเยี่ยมที่สุดในอันดับหนึ่งแล้วก็บางทีอาจเป็นชั้น ท็อป 3 ของ Zack Snyder เลยทีเดียว แม้นี่จะเป็นการรีเมคจากภาคเก่าที่ทำไว้ดีมากๆแล้วก็ตามในชื่อเดียวกันที่ฉายไปแล้วในปี 1978 แล้วก็บรรลุผลสำเร็จอย่างงดงาม กับฉากที่คนตายลุกเดินไปทั้งเมือง ซึ่ง Dawn Of The Dead เองก็เป็นเสมือนหลักไมล์ของหนังซอมบี้กระหน่ำเมืองในสมัยแรกๆเลยทีเดียว จนกว่า Zack Snyder นำมันมารีเมคอีกรอบ มีการปรับเปลี่ยนหน้าที่ของนักแสดงไปน้อย แม้กระนั้นยังคงโลเคชั่นแล้วก็รายละเอียดคล้ายของเดิมเป็น การที่ เหล่าผู้รอดชีวิตจากการได้รับเชื้อไวรัสที่ทำให้คนกลายเป็นซอมบี้ จะต้องไปติดอยู่ในช้อปปิ้งมอลล์ แม้จะมีอาหารการกินเพรียบพร้อม แม้กระนั้นซอมบี้ก็ล้อมพวกเขาไว้ทุกๆด้าน นอกจะต้องเอาชีวิตรอดจากซอมบี้ด้านนอกแล้ว พวกเขายังจะต้องรับมือกับภัยเงียบที่มาจากมนุษย์ร่วมกันเองอีกด้วย Zack ดำเนินตามรอยงานเดิม แม้กระนั้นชั้นเชิงการควบคุมของเขาก็ทำให้หนังสนุกสนานแล้วก็ลุ้นมาก รวมทั้งเอกลักษณ์ในด้านงานภาพของ แซ็คที่มักจะมีฉากเด็ดๆเป็นจุดขายอยู่เป็นประจำ ซึ่ง Dawn Of The Dead ฉบับรีเมคครั้งนี้ เป็นเยี่ยมในสมัยที่มีหนังซอมบี้ทยอยเข้าโรงเยอะมากจนถึงเกือบจะกลายเป็นเทรนด์ของหนังสมัยนั้นเลยทีเดียวหมายถึงกระแสซอมบี้มาแรงสุดๆยกตัวอย่างเช่น หนังซอมบี้ล้างเมืองขนานแท้ 28 day laters (2002) ของดินแดนนี่ บอล์ย แล้วก็ หนังพะบู๊ซอมบี้สุดมันที่ผลิตจากเกมดัง Resident Evil (2002) ของ พอล วิลเลี่ยม แอนเดอร์สัน ซึ่งในสมัยนั้นมีหนังซอมบี้เยอะมากหลายสิบความจริงๆแม้กระนั้นมีที่ดีจังๆไม่กี่เรื่อง ซึ่ง Dawn Of The Dead ของ Zack Snyder เป็นเยี่ยมในนั้น มันเป็นหนังซอมบี้ที่สมัยเลยจริงๆ

23.เมืองในหมอก โดย STW Movie Style : Thailand

เมืองในหมอก

ไม่มีข้อสงสัยอะไรก็ตามสำหรับหนังหัวข้อนี้ที่ถูกจัดเป็นเยี่ยมในหนังมรดกของชาติ เนื่องจากว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆหนังของ ‘เพิมพล เชยอรุณ’ หัวข้อนี้ถือว่าเป็นหลักไมล์ที่สำคัญสำหรับหนังฟิล์มนัวร์ในบ้านพวกเราอย่างเห็นได้ชัด มันเป็นหนังที่เฉลี่ยวฉลาดในสมัยนั้น ถ้าจะเรียกอีกแง่หนึ่งคือมันเป็นหนังที่มาก่อนถึงเวลานั่นเอง แล้วก็มันเป็นหนังเรื่องหนึ่งที่สะท้อนคุณประโยชน์ของภาพยนตร์ผ่านระยะเวลาได้อย่างเห็นได้ชัด หนังบางเรื่องไม่มีความจำเป็นต้องบรรลุผลสำเร็จในสมัยนั้น แม้กระนั้นเวลานั่นแหละจะเป็นสิ่งที่ทดลองคุณประโยชน์ของมัน แม้หนังหัวข้อนี้จะถูกดัดแปลงแก้ไขมาจากบทประพันธ์เรื่อง ‘ความเข้าใจผิด’ ของ ‘กามูส์’ แม้กระนั้นมันก็ถูกปรับเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างให้เป็นแบบไทยมากเพิ่มขึ้น การเซ็ตสถานที่เมืองในหมอกสะท้อนความกำกวมของความเข้าใจผิดได้อย่างเห็นได้ชัด พวกเราไม่รู้เรื่องว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด การสะท้อนความมืดมนหม่นของชีวิต แล้วก็จิตใจของนักแสดง ยิ่งรวมกับการเล่าเรื่องที่สร้างความระทึกแล้วก็ตื่นเต้นด้วยแล้ว นี่เป็นหนังไทยที่ควรค่าแก่การจดจำในประวัติศาสตร์ แล้วก็เป็นหมุดตัวสำคัญสำหรับหนังไทยนับตั้งแต่นั้นมา

 

24.Cyborg She โดย Poprock on FILM

หนังมีโปรแกรมเข้าฉายตอนปี 2008 ในขณะนั้นเป็นสมัยที่หนังโรแมนติเตียนคคอมเมดี้ของเกาหลีกำลังถึงสมัยสร่างซาพอดี ภายหลังที่ My Sassy Girl (2001) ของ จอนจีฮยอนเคยสร้างการเกิดถล่มทลายโลกหนังรอมคอมของเอเชีย กระแส “ยัยตัวร้าย” ที่จอนจีฮยอนสร้างไว้ ได้กลายเปนมาตรฐานให้หนังรอมคอมสมัยต่อๆมาตามไปด้วย หลังจากนั้นก็ยังไม่มีหนังเกาหลีหรือหนังเอเชียเรื่องไหน สามารถขึ้นแท่นมาเทียบกับ My Sassy Girl ได้แบบชัดแจ้งอีก จนกว่า จอนจีฮยอนจะต้องกลับมาอีกรอบในหนังแนวเดียวกับ My Sassy Girl ที่โล่งแจ้งกำเนิดให้เธอ นั่นเป็น Windstuck ในปี 2004 ซึ่งการคัมแบ็คครั้งนี้ก็ค่อนข้างจะน่าผิดหวัง เนื่องจากว่าเธอยังไม่สามารถที่จะทำเป็นดีมากยิ่งกว่าที่เคยทำเป็นใน My Sassy Girl เลย มาตรฐานก็เลยจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เสมอตตัวเท่านั้น

แม้กระนั้นนั่นก็เป็นการตอกย้ำเทรนด์หนังโรแมนติเตียนคคอมเมดี้ในสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี นางเอกแก่นเซี้ยว เป็นยัยจอมดื้อเอาแต่ใจ ดารานำชายเป็นชายหนุ่มซื่อแสนดี มีหนังพลอตทำนองนี้ออกมาเยอะมากจนถึงผู้คนเริ่มระอา กระทั่ง วันหนึ่งมีข่าวสารว่า จะมีหนังโรแมนติเตียนคเรื่องหนึ่ง ที่เป็นการรวมทุนกันของเกาหลีแล้วก็ประเทศญี่ปุ่น ในชื่อ Cyborg She (ยัยนี่น่ารักน่าเอ็นดูจัง) ซึ่งตอนนี้จะเป็นหนังโรแมนติเตียนคอมเมดี้จากประเทศญี่ปุ่นบ้าง หน้าหนังแล้วก็พลอตเรื่อง ถือว่าท้าผู้ชมพอสมควร เนื่องจากว่ามันดูเหมือนจะใช้เทรนด์หนังเดิมๆแบบ “ยัยตัวร้าย กับนายเจี๋ยมเจี้ยม” แม้กระนั้นเปลี่ยนแปลงจากคนเป็นหุ่นยนต์ กับชายหนุ่มทึ่มคนหนึ่ง ในแบบประเทศญี่ปุ่นๆแม้กระนั้นดันกำกับโดยคนเกาหลี ซึ่งผู้กำกับการเกาหลีที่ว่านี่ก็คือ “กว๊ากแจยอง” ผู้กำกับ My Sassy Girl แล้วก็ Windstuck นั่นเอง ซึ่งนี่ได้ผลงานที่จะต้องกล่าวว่า สามารถเทียบกับงานชิ้นที่เลื่องลือของเขาอย่าง My Sassy Girl ได้เลยจริงๆเนื่องจากว่า Cyborg She เล่าด้วยแก่นของเรื่องแบบเดิมๆเป็น นางเอกผ่องใส เอาแต่ใจ แล้วก็ดารานำชายทึ่มแสนดี แม้กระนั้นหนังนั้นไปไกลกว่าการเป็นเพียงแค่หนังโรแมนติเตียนครักหนุ่มสาวธรรมดา มันยังมีการตั้งข้อซักถามถึง คุณประโยชน์ของความเป็นคนหรือหุ่นยนตร์ แม้แต่เรื่องความรักแล้วก็การเสียสละ ส่งที่สะดุดตาอย่างยิ่งในสมัยนั้นเป็น ฉากแผ่นดินไหวสุดอลังการ ที่เป็นฉากสำคัญของเรื่อง ด้วยเคล็ดลับคอมพิวเตอร์กราฟฟิคสุดอลังการ หนังใส่รายละเอียดเรื่องโลกคู่ขนานแล้วก็การย้อนเวลาลงมาในหนังได้อย่างลงตัว ในปีที่หนังเข้าฉาย คนไม่ใช่น้อยบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันจะร้องไห้” นี่เป็นหนังรัก ระหว่าง มนุษย์แล้วก็หุ่นยนตร์ ที่เบิกบาน แล้วก็ทำให้แม้แต่เพศชายยังจะต้องน้ำตารื้น เป็นงานชิ้ยมาสเตอร์พีซของ กว๊ากแจยอง ที่เหมาะสมแก่การยกไว้ในลิสต์หนังโรแมนติเตียนคคอมเดี้ที่สมัยของเอเชียเลยทีเดียว

25.Watchmen โดย Mr.Darkknight

Watchmen

คำอธิบายศัพท์ของคำว่าซุปเปอร์ฮีโร่ในตอนสมัยข้างหลังๆได้ถูกเอามาแปลความหมายใหม่แล้วก็เพิ่มความเป็นคนเพิ่มความดาร์คเพื่อให้ดูสมจริงสมจังเพิ่มมากขึ้น

นั่นก็หมายความว่าพวกเราจะมิได้เห็นเพียงแค่ฮีโร่ที่มีคุณงามความดีรอบด้านแม้กระนั้นที่พวกเราจะเห็นเป็นการแปลความคำว่าฮีโร่ที่ผิดแผกแตกต่างออกไป หนังหัวข้อนี้ก็เลยมีบทบาทสำหรับเพื่อการเล่าในเวลา 3 ชั่วโมงโดยที่พวกเราก็ไม่อาจมั่นดวงใจว่าสิ่งที่อยู่ข้างหน้าพวกเรานั้นเป็นฮีโร่จริงๆหรือไม่ มันก็เลยมีทั้งความกำกวมด้านศีลธรรมที่ถูกตั้งข้อซักถามแล้วก็ตอบออกมาได้อย่างไม่เต็มปากถึงแนวทางการที่ทำลงไปว่ามันเหมาะสมจริงๆหรือ ? เหนือสิ่งอื่นใดนี่เป็นหนังที่เป็นตัวสะท้อนแล้วก็เสียดสีประเทศเบอร์หนึ่งของโลกอย่างอเมริกาได้อย่างเจ็บแสบ

26.Star Trek โดย หมื่นทิพ

Star Trek

เป็นหนังรีเมคแล้วก็หนังภาคต่อไม่กี่เรื่องที่สร้างสรรค์ออกมาได้อย่างถึงใจ แฟนรุ่นก่อนดูแล้วอิน ส่วนผู้ชมแบบใหม่ดูแล้วก็ฟิน ถ้าถามคำถามว่าของดีมีอะไรบ้างก็ไล่ไปตั้งแต่พล็อตเข้มข้น, การเดินเรื่องที่เร้าใจแล้วก็ไต่ระดับความลุ้นอย่างออกรส, Effect เนี๊ยบละลานตา, ดนตรีถึงอารมณ์ แล้วก็มุขตลกสอดที่แทรกลงมาแบบเหมาะเจาะ

สำหรับแฟน Star Trek อย่างผมแล้ว หนังสืบต่อตำนานได้อย่างยอดเยี่ยม แน่นอนขอรับว่าหลายประเภทต่างไปจากอันเก่า แม้กระนั้นหนังก็สามารถบรรยายชี้แจง ผูกเรื่องโยงข้อความสำคัญจนถึงทำให้ความเปลี่ยนแปลงทุกจุดดูสมเหตุผล เชื่อมกับ Story เดิมได้อย่างเนียน แล้วก็ที่ต้องการปรบมือดังๆเป็นดาราที่คัดมานั้นใกล้เคียงคาแรคเตอร์ชุดเก่ามาก ดูแล้วยอมรับได้เต็มที่ว่าพวกเขากลุ่มนี้เป็นลูกเรือเอนเตอร์พนาลัยส์ขนานแท้แล้วก็เริ่มแรก

เป็นหนังอีกประเด็นที่ผมจะต้องถือมาดูทุกเดือน… ก็หนังมันกระตุ้นอะดรีนาลีนได้ชะงัดนัก

27ข้างหลังภาพ โดย Cinema Paradiso by Golffy

ข้างหลังภาพ

ผู้กำกับชั้นครู เชิด ทรงศรี กับการนำวรรณกรรมเรียกน้ำตาสุดคลาสสิค บทประพันธ์โดยศรีทิศตะวันออก มาขึ้นจอภาพยนตร์อีกรอบ ผู้ครอบครองวลีถูกใจ “ฉันตายโดยไม่มีคนที่รักฉัน แม้กระนั้นฉันก็อิ่มเอมดวงใจที่ฉันมีบุคคลที่ฉันรัก” เรื่องราวของรักเผยมิได้ระหว่างคุณหญิงกีความกำหนัด ผู้มีใจให้กับนพพร ชายหนุ่มรุ่นน้อง ในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นไปกับผัว และเก็บซ่อนความรู้สึกนั้นไว้กระทั่งวันที่ร่างกายตายไปพร้อมทั้งหัวใจที่แหลกสลาย ความรักอันงามเช่นเดียวกันกับจะต้องคำแช่งของคุณหญิงกีความกำหนัด ถูกเอามาถ่ายทอดครบบริบรูณ์เรียกตัวอักษร ผ่านทั้งภาพลักษณ์แล้วก็การแสดงที่เสมือนหลุดออกมาจากในนิยายจริงๆของคุณค้างร่า พลสิทธิ์ ด้วยภาพรวม องค์ประกอบแล้วก็งานโปรดักชั่นที่ตั้งดวงใจให้เสมือนสรรเสริญหนังไทยยุคเก่า บางครั้งก็อาจจะดูเชยไปในสายตาคนรุ่นหลัง แม้กระนั้นก็ลงตัวไปกับเรื่องราว แล้วก็เป็นการให้เกียรติวรรณกรรมอย่างชาญฉลาด หากว่าคุณกำลังมองหาหนังรักเคล้าน้ำตา หรือหนังไทยดีๆสักเรื่อง …

‘ข้างหลังภาพ’ เป็นงานที่ไม่สมควรพลาด แล้วก็ถึงแม้ว่าจะคุณจะใจแข็งมากแค่ไหน ก็บางครั้งก็อาจจะจะต้องหวั่นไหวต่อการรอรักจริงของหญิงที่ชื่อว่า ‘กีความกำหนัด’ … หนึ่งในนักแสดงแอบรักผู้น่าเวทนาที่สุดคนหนึ่งบนโลกภาพยนตร์ เนื่องจากว่าแม้ เธอจะเข้าดวงใจว่าความรักนั้นงามเพียงแต่ไหน แม้กระนั้นเธอก็ไม่มีวัน แม้จะได้เจอ

28.Paprika โดย PatSonic

Paprika

งานแอนิเมชั่นอันสะดุดตาจาก Satoshi Kon ผู้ล่วงลับ ลักษณะงานโดยส่วนมากของ Kon เป็นการผสมผสานเรื่องราวของความเป็นจริงแล้วก็จินตนาการเข้าด้วยกัน นำเสนอเรื่องราวปมในจิตใจอันดำมืดออกมาเป็นงานภาพเคลื่อนไหวที่น่าตื่นตา ตื่นดวงใจ แล้วก็ Paprika ก็อยู่ในข้อนั้น เรื่องราวของความฝันของผู้คนที่ธรรมดาก็อยู่จิตของคนใดของมัน ไม่บางทีอาจแบ่งส่วนร่วมฝันกับคนใดได้ แล้วก็เป็นความลับเฉพาะบุคคลที่มีเพียงแต่ผู้ฝันเท่านั้น ที่จะสร้างมัน จดจำ หรือลืมมันไป ไอเดียของการเก็บข้อมูลความฝันจากสมองอัจฉริยะของชายหนุ่มร่างอ้วนๆคนหนึ่ง กลายมาเป็นเทคโนโลยีที่สุดล้ำเหนือจินตนาการ

อุปกรณ์เก็บข้อมูลความฝันที่ชื่อ “ดีซีไม่นิ” ที่ยังอยู่ในขั้นทดสอบ แล้วก็ยังพัฒนาโปรแกรมควบคุมได้ไม่สมบูรณ์ ได้ถูกลักขโมยไปอย่างไม่รู้เรื่องมูลเหตุ ทีมค้นคว้าวิจัยจำเป็นต้องแสวงหาเจ้าเครื่องนี้ที่หายไป การผลิตเทคโนโลยีด้วยแรงขับเขยื้อนแบบเด็กๆบางทีอาจไม่ใส่ใจคิดอย่างละเอียดถึงผลที่จะเกิดขึ้นตามมา มีเป้าหมาย ก็สร้างประดิษฐกรรมอันมีแรงบันดาลใจจากความฝัน แม้กระนั้นลืมคิดถึงโทษจากคนไม่ดีที่จะนำเทคโนโลยีสุดล้ำนั้นไปใช้ ท้ายที่สุด เรื่องร้ายก็เกิดขึ้นแล้วก็ขยายใหญ่มหึมาเยอะมาก

งานภาพช่างน่าตื่นตา เมื่อจินตนาการมาบรรจบกับความเป็นจริงผ่านลายเส้นเนียนๆเพิ่มเติมกับเพลงประกอบสะดุดใจ ชูให้ Paprika เป็นหนึ่งในแอนิเมชั่นจากประเทศญี่ปุ่นที่คุณจะต้องดู

 

29.What Dreams May Come โดย แมวตัวนั้นนั่งดูหนังตรงแถว C

What Dreams May Come

โรบิน วิลเลี่ยมส์ เป็นผู้แสดงในดวงใจของใครหลายๆคน แล้วก็ถ้าเอ๋ยถึงผลงานของฮี คนไม่ใช่น้อยจะรำลึกถึงหัวข้อนี้ What Dreams May Come พลังรักข้ามเส้นขอบฟ้า ตามรักถึงสรวงสวรรค์ (ป๊าดด ชื่อไทยนี่ นึกว่าโปเยโปโลเย)

เรื่องราวของครอบครัวที่อบอุ่นมีลูกวัยรุ่นสองคน ทุกๆเช้าตรู่แม่จะเป็นพนักงานขับรถไปส่ง ทุกๆอย่างเป็นไปด้วยดี จนกว่า ลูกชายแล้วก็บุตรสาวเผชิญอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งสอง ภายหลังดารานำชายถูกรถชนเสียชีวิตอีกคน ทำให้นางเอกโทษว่าทุกๆอย่างเป็นความผิดตัวเอง ท้ายที่สุดก็ฆ่าตัวตาย ในตอนที่ดารานำชายแล้วก็ลูกๆอยู่บนสววรค์ แม้กระนั้นคนฆ่าตัวตายนับว่าเป็นบาปอย่างหนึ่ง แน่นอนนางเอกลงนรก ด้วยความรักเมีย ดารานำชายก็เลยเพียรพยายามเสี่ยงลงไปแดนนรก เพื่อตามหาภรรยาของเค้าแล้วก็พากลับมาสรวงสวรรค์ร่วมกัน ท้ายที่สุดจะช่วยได้สำเร็จหรือไม่จะต้องทดลองหามาดู

นี่เป็นหนังดีอีกประเด็นที่เสนอแนะ เว้นเสียแต่ปลื้มปิติ ชื่นชอบในเพลงไพเราะแล้วก็ ภาพที่โคตรสวยสมกับที่ได้ออสการ์เคล็ดลับพิเศษด้านภาพในปีนั้นแล้ว ยังสอนอะไรพวกเราได้มากมาย หนังเหมาะสมกับคนประเทศไทยที่เชื่อในศาสนาพุทธ เชื่อในเรื่องของ บุญบาป แดนนรกสววรค์อีกด้วย ทุกสิ่งใน โลกล้วนอนิจจังเกิดขึ้นได้ ก็ควรจะมีดับไป ไม่มีอะไรยั่ง

เรื่องราวของครอบครัวที่อบอุ่นมีลูกวัยรุ่นสองคน ทุกๆเช้าแม่จะเป็นคนขับรถไปส่ง ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี จนกระทั่ง ลูกชายและลูกสาวประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ ภายหลังพระเอกถูกรถชนเสียชีวิตอีกคน ทำให้นางเอกโทษว่าทุกอย่างเป็นความผิดตัวเอง สุดท้ายก็ฆ่าตัวตาย ในขณะที่พระเอกและลูกๆ อยู่บนสววรค์ แต่คนฆ่าตัวตายถือเป็นบาปอย่างหนึ่ง แน่นอนนางเอกตกนรก ด้วยความรักเมีย พระเอกจึงพยายามเสี่ยงลงไปนรก เพื่อตามหาภรรยาของเค้าและพากลับมาสวรรค์ด้วยกัน สุดท้ายจะช่วยได้สำเร็จหรือไม่ต้องลองหามาดู

นี่คือหนังดีอีกเรื่องที่แนะนำ นอกจากซาบซึ้ง ประทับใจในเพลงเพราะและ ภาพที่โคตรสวยสมกับที่ได้ออสการ์เทคนิคพิเศษด้านภาพในปีนั้นแล้ว ยังสอนอะไรเราได้มากมาย หนังเหมาะกับคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ เชื่อในเรื่องของ บาปบุญ นรกสววรค์อีกด้วย ทุกสิ่งใน โลกล้วนอนิจจังเกิดขึ้นได้ ก็ต้องมีดับไป ไม่มีอะไรยั่งยืน ไม่ว่าจะดีใจหรือเศร้าโศกฟูมฟายแค่ไหน ไม่ช้าอารมณ์นั้นจะจบ และผ่านไป แต่สิ่งที่ยังอยู่กับตัวเราก็คือปัจจุบัน เมื่อวันใดวันหนึ่งที่เราเจอเรื่องร้ายๆเกิดขึ้น ต่อให้ร้ายแรงแค่ไหน สิ่งหนึ่งที่เชื่อว่ายังมี นั่นคือ “ศรัทธา” และ “ความรัก ”

30.Hero โดย ชมรมนิยมหนังอินดี้

Hero

องค์ประกอบของภาพยนตร์หัวข้อนี้ซึ่งถูกกล่าวขวัญสูงที่สุดเป็น การใช้โทนสี แตกต่างกันไปแต่ละระยะเวลา เพื่อสะท้อนถึงห้วงอารมณ์ของตัวหนังโดยภาพรวมแล้วก็ข้อความสำคัญที่แอบแฝงไว้ ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ สิ่งที่สะท้อนสะเทือนจิตใจสูงที่สุด กลับเป็นแก่นของภาพยนตร์ที่เอ๋ยถึงเรื่อง ‘วีรบุรุษ’ หนังตั้งข้อซักถามว่า วีรบุรุษที่จริงนั้นคืออะไร? นักแสดงตัวใดบ้างสามารถนิยามว่าเป็นวีรบุรุษ? วีรบุรุษมีระดับขั้นมั้ย? วีรบุรุษจะต้องเสียสละถึงระดับไหน? กระทั่งชีวิตของตัวเอง? วีรบุรุษนั้นมีความน่าจะเป็นไปได้? มนุษย์สามารถเสียสละส่วนตนเพื่อสาธารณะได้จริงหรือ? ความโหฬารของชาติหนึ่งๆต้องแลกมาด้วยเลือดเนื้อของวีรบุรุษจำนวนนับไม่ถ้วนเสมอ?

31.Juno โดย โรงภาพยนตร์ที่ 3 ที่นั่ง E12

Juno

ในตอนที่การท้องมันเป็นการถือกำเนิดของชีวิต แม้กระนั้นในขณะเดียวกันหากว่ามันมาในเวลาที่ไม่เหมาะสมมันก็บางครั้งก็อาจจะเป็นวาระสุดท้ายของชีวิตใครบางคนเช่นกัน แล้วก็ถ้าเหตุการณ์นี่มันดันเกิดขึ้นกับตัวเราในเวลาที่ไม่พร้อมล่ะพวกเราจะทำเช่นไร?

JUNO เป็นหนึ่งในหนังที่เสนอเอาข้อความสำคัญหัวข้อการท้องในวัยศึกษามาเล่าได้สะดุดตาเกินหน้าเกินตาหนังแนวเดียวกันไปๆมาๆก เป็นหากแม้ด้วยหน้าหนังมันจะถูกมองว่าเน้นไปที่ปัญหาเพศสัมพันธ์ในวัยศึกษาแม้กระนั้นในความเป็นจริงแล้ว JUNO มันเป็นหนัง Coming of Age ที่แอบแฝงนัยมาได้อย่างแนบเนียนแล้วก็เลอค่าสมรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยียมออสการ์ปีนั้นจริงๆ

เค้าว่ากันว่าวัยรุ่นเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ บางคนบางครั้งก็อาจจะถึงจุดเลี้ยวเร็วหรือช้าไม่เท่ากัน แม้กระนั้นเมื่อวันหนึ่งจุดเลี้ยวนั้นดันถูกส่งเสริมให้เข้ามาหาพวกเราเร็วขึ้นด้วยเด็กแรกคลอดตัวน้อยๆสิ่งที่เลี่ยงมิได้เป็นพวกเราจะแปลงสถานะจากเด็กไปสู่การเป็นผู้ใหญ่ในชั่วอึดใจเดียว

สิ่งที่ JUNO ทำเพื่อรับมือกับการควรจะเป็นคนแก่ก็คือเธอเพียรพยายามจะเป็นผู้ใหญ่จริงๆให้ได้ จากการแสดงออกที่เห็นแจ้งชัดไม่ว่าจะเป็นการบอกการจา การตัดสินใจจะจัดการกับปัญหาด้วยตนเอง ลีลาแน่ใจ ไม่ยี่หระต่อปัญหาข้างหน้า จนถึงบ่อยเธอก็มีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ไปแล้วจริงๆ

แม้กระนั้นในตอนที่ท้องของเธอโตขึ้นเรื่อยๆเธอกลับทำให้พบว่าในความเป็นผู้ใหญ่ที่เธอเพียรพยายามจะเป็นให้ได้นั้นมันช่างสลับซับซ้อนแล้วก็เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ โดยเฉพาะเรื่องของความรักที่ “ทำไมคนเราถึงรักกันแล้วก็อยู่ร่วมกันตลอดกาลมิได้” อย่างคนที่ครอบครองคู่กันในแบบที่เธอฝันไว้มาตลอด แล้วก็ตลอดระยะเวลา 9 เดือนที่อุ้มท้องมันก็ทำให้ JUNO ตระหนักได้ท้ายที่สุดว่าการฝ่าฝืนทำอะไรที่ไม่ใช่มันช่างไม่ได้เรื่อง สู้ปล่อยให้มันเป็นไป ค่อยๆเรียนรู้ผ่านประสบการณ์แล้วก็จนกระทั่งใกล้จะถึงวันที่เธอ “โตแล้ว” จริงๆเธอก็น่าจะรู้เองในวันนั้นว่าคำตอบของความข้องเกี่ยวสลับซับซ้อนที่เธอตามหาน่ะมันเป็นอย่างไรกันแน่

32.Face/Off โดย Filmsoon.com

Face Off

หนังแอคชั่น-ตื่นเต้นกล่าวถึงเรื่องราวการหักเหลี่ยมเฉือนคมระหว่างนายตำรวจมือพระกาฬ ฌอร์น อาร์เชอร์(จอห์น ทราโอ้อวดลต้า)แล้วก็เจ้าพ่อมาเฟียโรคจิต แคสเตอร์ ทรอย(นิโคลัส เคจ) เป็นระยะเวลานานที่ฌอร์นตามล่าตัวแคสเตอร์ ด้วยเนื่องจากว่าเจ้านี่เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายตัวเอ้แล้วก็ยังเป็นคนลอบฆ่าลูกชายของเขา

จากเหตุผลทั้งเรื่องหน้าที่แล้วก็เรื่องส่วนตัวนี่เองทำให้การไล่ล่ากันครั้งล่าสุดฌอร์นวางกำลังล้อมจับแคสเตอร์ได้ได้ผลสำเร็จแล้วก็จบลงที่แคสเตอร์นอนรุนแรง แม้กระนั้นคดียังปิดมิได้เนื่องมาจากยังมีเหตุบางประการ ฌอร์นแล้วก็สหายตำรวจไม่กี่คนก็เลยวางแผนณ์ล้วงความลับของแคสเตอร์ด้วยการสับเปลี่ยนใบหน้าของแคสเตอร์มาใส่ใบหน้าาของเขา ในระหว่างนั้นเองแคสเตอร์กลับฟื้นขึ้นมาแล้วก็ซ้อนแผนด้วยการเอาใบหน้าของฌอร์นมาใส่ให้ตัวเองบ้าง เมื่อชีวิตโดนลักขโมยทำให้ฌอร์นในภาวะของแคสเตอร์ต้องหาทางทวงคืนชีวิตของตัวเองแล้วก็ตามไล่ล่าแคสเตอร์ตัวจริงที่กำลังเบิกบานกับการสวมรอยเป็นเขาอยู่ขณะนี้

ด้วยโครงเรื่องที่ผูกเรื่องราวได้น่าติดตามแล้วก็ข้อความสำคัญดราม่าของนักแสดงที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างเข้มข้นผ่านการแสดงของเคสแล้วก็ทราโอ้อวดลต้า ทั้ง 2 สามารถถ่ายทอดลักษณะท่าทางนักแสดงของตัวเองแล้วก็สลับกันเป็นอีกฝ่ายได้อย่างน่าทึ่ง เคสได้เล่นเป็นไอ้โรคจิตก็จิตแตกแบบสุดๆแม้กระนั้นเพียงพอมาเป็นคนดีก็ดีแล้วจนถึงน่าเวทนา ส่วนทราโอ้อวดลต้าก็ดูเป็นคนดีอยู่แล้ว เพียงพอสลับเป็นตัวร้ายก็ร้ายเหิมใจ อีกทั้งฉากแอคชั่นในเรื่องก็ทำออกมาก้าวหน้ามากและไม่ได้แออัดยัดเยียดการสาดกระสุนมากจนเกินไปจนถึงดูเฟ้อ แม้กระนั้นพวกเราจะได้เห็นการออกแบบคิวบู๊แล้วก็ลีลาการเคลื่อนไหวของนักแสดงที่ดูมีศิลป์แล้วก็รับรู้ได้ว่ามันผ่านการคิดมาแล้ว จากองค์ประกอบทั้งหมดทั้งปวงที่ว่ามาทำให้คนชอบดูหนังแอคชั่นกี่รุ่นต่อกี่รุ่นก็ไม่สมควรที่จะพลาดดูหนังหัวข้อนี้ด้วยประการทั้งปวง

33.The Insider โดย โรงภาพยนตร์ที่ 3 ที่นั่ง E12

The Insider

อยากให้คุณลองนึกดูตาม มันจะเป็นอย่างไรถ้าคนเดินดินคนนึงหาญกล้าจะลุกขึ้นยืนมาต่อสู้กับความไม่ถูกต้องโดยยอมเอาชีวิตที่เหลือของตัวเองเป็นเดิมพัน ในความเป็นจริงแล้วศัตรูที่เขาจึงควรเผชิญด้วยนั้นมันเป็นอะไรที่ว่ากันตามจริงแล้วไม่อาจจะไปต่อกรอะไรด้วยได้เลย… มันเป็นศึกที่แพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันคิดจะสู้ เนื่องมาจากฝั่งตรงข้ามเป็นถึงบริษัทขายยาดูดยักษ์ใหญ่หนึ่งในสามของประเทศที่มีอำนาจมืดล้นมือแถมยังพ่วงมาด้วยกำลังเงินที่สามารถควบคุมสื่อระดับบิ๊กของสหรัฐได้อีกต่างหาก ชีวิตของชายธรรมดาคนนี้มันช่างมืดมนเป็นบ้า แม้กระนั้นฟังดูแล้วมันก็น่าค้นหาอย่างยิ่งว่าที่สุดแล้วศึกคราวนี้มันจะไปจบลงอย่างไร?

The Insider อีกหนึ่งผลงานขึ้นหิ้งของผู้กำกับการที่ทำหนังได้ “โคตรเท่ห์” Michael Mann หัวข้อนี้ผลิตจากความจริงของ ดร.เจฟฟรีย์ ไวด์แกน(Russell Crowe) สมัยก่อนหัวหน้าศูนย์วิจัยบริษัทขายยาดูด B&W แล้วก็เป็นนักเคมีศาสตร์ตัวท๊อปของแวดวงคนนึง

เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อวันหนึ่งไวด์แกนโดนไล่ออกพร้อมจับเซ็นสัญญาห้ามเผยความลับบริษัท แม้กระนั้นความลับนั้นมันยังคงค้างอยู่ในความรุ้สึกผิดชอบชั่วดีของเขา เนื่องจากว่าความลับนั้นมันเป็นความลับที่ส่งผลร้ายแรงมหาศาลต่อร่างกายราษฎรสหรัฐ ในเวลานั้นเองไวด์แกนก็ได้เจอกับโปรดิวเซอร์รายการทีวีโชว์ “60 minute” โลเวน เบิร์กแมน(Al Pacino) ที่สมัครใจจะช่วยไวด์แกนเผยความลับดำมืดอันน่าสะอิดสะเอียนนี้ให้ราษฎรได้รับรู้ผ่านรายการของเขา แม้กระนั้นเมื่อไวด์แกนตกลงใจเปิดเผยความลับ ผลกรรมของเขาก็เริ่มขึ้น เขาโดนขู่ฆ่าทั้งครอบครัวจนถึงตลอดตัวเขาแล้วก็ลูกเมียแทบสติแตก โดนหมายศาลข้อกล่าวหาผิดสัญญาห้ามเผยความลับ โดนป้ายสีจากสื่อที่บริษัทยักษ์ใหญ่ควบคุมอยู่ แถมรายการ “60 Minute” เทปที่เขาไปออกก็โดนอำนาจลึกลับสั่งแบนเอาดื้อๆเสียอีก

ในฐานะของบิดา

ในฐานะของผัว

ในฐานะของราษฎรสหรัฐ

ในฐานะของคนดี

ไวด์แกนควรทำยังไง แล้วก็เรื่องราวมันจะไปจบลงที่ไหน ชวนหามาพิสูจน์กันได้เลยขอรับ รับประกันความโก้เก๋ห์ ความดิบ ความดุ ความแมน แล้วก็ความดราม่าตับแตก โดย Michael Mann (ยุคยังพีคๆ)ขอรับ

34.The Ring โดย Cinema Paradiso by Golffy

The Ring

จากนิยายสุดน่ากลัวที่ผสมเรื่องผีๆกับวิทยาศาสตร์ได้อย่างน่าทึ่งของซูซุกิ วัวจิ สู่การเป็นไม่นิซีรีส์ฮิตทางโทรทัศน์ แล้วก็ภาพยนตร์เขย่าขวัญระดับตำนานของประเทศญี่ปุ่น จนถึงมาถึงมือฮอลลีวู้ดเอามารีเมค โดยผู้กำกับ กอว์ เวอร์บินสกี้ เรื่องราวหลอนของคำแช่งที่บันทึกลงสู่ม้วนวีดีโอ ความแค้น ความเกลียดชังโลกมนุษย์

ซึ่งหากคนใดได้ดูสิ่งที่ปรากฏในวีดีโอม้วนนั้นควรมีอันเป็นไปภายในเจ็ดวัน กับเอกลักษณ์ผีสาวผมยาวคลานออกจากโทรทัศน์ การแปลความใหม่คราวนี้ ให้ผลลัพธ์เยี่ยมยอด แม้จะหลอนน้อยกว่าเวอร์ชั่นต้นฉบับ แม้กระนั้นก็มีภาพรวมที่เป็นความสนุกสนาน ลงตัว ดูง่าย แล้วก็คล้ายกับตัวนิยายมากกว่า ความสะดุดตาของเวอร์ชั่นฮอลลีวู้ดอยู่ที่พลังดาราของนางเอกที่นาโอมิ วัตต์ส รวมไปถึงงานโปรดักชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมภาพ แล้วก็เคล็ดลับพิเศษ ซึ่งทำเป็นอย่างงดงาม สมจริงสมจัง เมื่อรวมกับบทภาพยนตร์ที่แปลงจากเรื่องราวรู้จักให้สากลมากเพิ่มขึ้น ทำให้ The Ring ฉบับฮอลลีวู้ด น่าจะเป็นหนึ่งในงานรีเมคหนังสยองขวัญเอเชียที่ดีเยี่ยมที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่เคยมีมา

35.เสียดาย โดย STW Movie Style : Thailand

เสียดาย

ถ้าพวกเรารำลึกถึงหนังไทยที่กล้าบอกเรื่องสารเสพติด แล้วก็ปัญหาครอบครัวก็คงมีอยู่จำนวนหนึ่ง แม้กระนั้นหนังไทยที่สะดุดตาแล้วก็เอ๋ยถึงผู้หญิงกับเรื่องสารเสพติดพวกเราจะพบว่ามันถูกจำกัดจำนวนลงอย่างยิ่ง แน่นอนว่าหนึ่งในหนังไทยที่พวกเราไม่มีวันไม่นึกถึงเลยเป็นเรื่อง ‘เสียดาย’ ผลงานโชว์ความเป็นศิลปิน แล้วก็นักทำหนังของ ‘ม.จ. ชาตรี เฉลิมยุคล’ ในสมัยที่เรียกว่าระยะเวลาของหนังประสิทธิภาพของผู้กำกับท่านนี้ หนังซื่อสัตย์สุจริต ชัดแจ้ง แล้วก็ขวานผ่าซากสำหรับเพื่อการนำเสนอภาพของหญิงวัยศึกษาที่ติดยา แล้วก็มีเส้นทางเดินชีวิตที่ไม่สวยหรูเท่าไรนัก ไม่เพียงเท่านั้นหนังเองยังมีความเป็นสารคดีด้วยการเอาบุคคลมานั่งเล่าความเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย

นั่นทำให้หนังมีความเชื่อมโยงระหว่างความเป็นจริง แล้วก็เรื่องแต่งอย่างยิ่งทีเดียว ซึ่งมันทำให้ผู้ชมเองสามารถเข้ามามีส่วนสำหรับเพื่อการมองดู แล้วก็วิพากษ์ปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัวที่แม้แต่นักแสดงเองก็ไม่มีวันรู้ มันก็เลยมีสถานะที่เป็นทั้งคนเล่าเรื่องเหตุการณ์ แล้วก็เป็นผู้สร้างความมีส่วนร่วมของผู้ชมสำหรับเพื่อการพินิจพิเคราะห์แล้วก็ตัดสินสิ่งที่เกิดขึ้น ในในที่สุดแล้วขอบอกเลยว่าไม่มีหนังไทยมากไม่น้อยเลยทีเดียวนักหรอกที่กล้าทำแบบหนังหัวข้อนี้

https://www.youtube.com/watch?v=FZyJaJr4W3Y

35 หนังดีที่คู่ควรแก่การรับชม